วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

ประวัติ บุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าของ ดีแทค (DTAC)



''บุญชัย เบญจรงคกุล'' เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2493 เป็นบุตรชายคนโตของคุณพ่อสุจินต์ และคุณแม่กาญจนา โดยมีน้องชาย - หญิง 3 คน คือ วรรณา (จิรกิติ), สมชาย และวิชัย เริ่มต้นธุรกิจบทแรก โดยเข้าสืบสานงานที่บริษัทขายเครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งคุณพ่อได้วางรากฐานการทำงานเอาไว้ให้ และได้อาศัยรากฐานนั้นพัฒนา ฝ่าฟันจนบริษัทยูไนเต็ด คอมมูนิเคชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในนาม ''ยูคอม'' ก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์สื่อสารหนึ่งในสี่ของประเทศไทย และเคยเป็นเจ้าของธุรกิจมือถือแทค หรือดีแทค ในปัจจุบัน ก่อนที่จะขายให้กลุ่มเทเลนอร์ จากประเทศนอร์เวย์ อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับเป็นเศรษฐีไทยอันดับที่ 13 ด้วยจำนวนเงินที่มีถึง 990 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 29,700 ล้านบาท

ภายใต้ความสำเร็จทางธุรกิจดังกล่าว เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล ไม่เคยละทิ้งปรัชญา และอุดมการณ์อันมุ่งมั่นที่จะทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง โดยเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด และมีบทบาทในองค์กรเพื่อสังคมหลายแห่ง อาทิ มูลนิธิวัดยานนาวา, มูลนิธิประชาร่วมใจ, มูลนิธิวัดราชสิงขร, มูลนิธิวัดลาดบัวขาว, มูลนิธิอนุรักษ์นกเงือกและป่าโซนร้อน, มูลนิธิเบญจรงคกุล, มูลนิธิยูคอม และโครงการพัฒนายุวสตรีชาวเหนือ ในจังหวัดพะเยา โดยให้ความสำคัญกับการสนับสนุนด้านการศึกษาเป็นหลัก 
 
นอกจากนี้ เจ้าสัวบุญชัย ยังเป็นผู้ที่ชื่นชมงานศิลปะเป็นอย่างยิ่ง โดยหลังจากแขวนนวมธุรกิจเขาได้ออกไปใช้ชีวิตได้ทำในสิ่งที่ใจรักด้วยการสร้าง ''พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย'' (MOCA) ซึ่งรวบรวมผลงานของศิลปินไทยมากกว่า 200 คน ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่โด่งดังและมีคุณค่าระดับประเทศ
 
อย่างไรก็ตามชีวิตความรักของ ''เจ้าสัวบุญชัย'' ถือว่าเป็นนักรักที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เคยผ่านการสมรสมาแล้วถึง 5 ครั้ง ได้แก่ วาสนา, วรรณา, เบญจมาศ และภรรยา ที่อยู่ในแวดวงบันเทิงได้แก่ สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์ และ เบญจา บารมีย์ โดยมีทายาทบุตรสาว 3 คน และบุตรชาย 2 คน โดยมี ''ตั๊ก'' บงกช คงมาลัย จึงเป็นคนรักที่กำลังจะจดทะเบียนคนที่ 6 ของเจ้าสัวบุญชัย

"หากชีวิตคือการเรียนรู้ การได้ศึกษาประวัติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง ก็เป็นการเรียนทางลัดที่วิเศษหนทางหนึ่ง"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น